มาสไรเดอร์ชิน
มาสไรเดอร์ชิน มาสค์ไรเดอร์รีไวซ์ เป็นผลงานชุดที่ 3 ของซีรีส์มาสค์ไรเดอร์ยุคเรวะ และเป็นผลงานครบรอบ 50 ปีของมาสค์ไรเดอร์ซีรีส์โดยระหว่างผู้สร้าง บริษัท โตเอ คอมปานี และ บริษัทของเล่น Bandai ได้มีการตกลงกันด้านธีมของเรื่อง ซึ่งกำหนดให้เป็น ตราสแตมป์ การทำสัญญากับปิศาจ สัตว์ที่แข็งแกร่ง มาสไรเดอร์ชิน ชิน มาสค์ไรเดอร์ ดีไซน์จากเลเจนด์ไรเดอร์ โดยที่ไม่ใช้พลังจากเลเจนด์ไรเดอร์เหมือนกับซีรีส์ มาสค์ไรเดอร์ดีเคด และ มาสค์ไรเดอร์จีโอ เพื่อหลีกเลี่ยงการใช้ลูกเล่นซ้ำ
เรื่องย่อ
ย้อนกลับไปเมื่อปี 1971 ณ ทวีปอเมริกาใต้ ทีมสำรวจญี่ปุ่นได้ค้นพบซากโบราณวัตถุ และพบเข้ากับวัตถุประหลาดชิ้นหนึ่งที่มีรูปร่างคล้ายตราประทับ ซึ่งสามารถทำให้มนุษย์ทำสัญญากับปิศาจได้ หนึ่งในทีมสำรวจถูกพลังลึกลับที่ว่านั้นครอบงำและปลดปล่อยบางสิ่งออกมาสู่โลกภายนอก กลับมาที่ปัจจุบัน กลุ่มคนที่เรียกตัวเองว่า เดดแมนส์ ได้ชักจูงให้ผู้คนทำสัญญากับปิศาจและก่อความวุ่นวายไปทั่วทุกแห่งหน รัฐบาลได้ก่อตั้งองค์กรหนึ่งขึ้นมา ชื่อว่า เฟนิกซ์ โดยรับหน้าที่ป้องกันเหตุร้ายที่เกิดจากปิศาจ โดยทางองค์กรได้สร้างอุปกรณ์ชิ้นหนึ่งที่เรียกว่า รีไวซ์ไดรเวอร์ แต่ยังคงหาผู้ที่เหมาะสมจะใช้มันไม่ได้ ต่อมา ชายหนุ่มนามว่า อิการาชิ อิคกิ ลูกชายคนโตของครอบครัวโรงอาบน้ำ ผู้ค้นพบว่ามีวิญญาณปิศาจตนหนึ่งสิงอยู่ในตัว แถมยังเข้าไปพัวพันกับเหตุการณ์วุ่นวายครั้งนี้ ตอนนั้นเองอิคกิก็ถูกเลือกให้เป็นผู้ใช้เข็มขัด รีไวซ์ไดรเวอร์ โดยนักวิทยาศาสตร์ผู้สร้างเข็มขัดที่ว่านั้นเอง เว็บดูหนังไทยออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง นับจากวินาทีนั้น เขาจึงต่อสู้ในฐานะ มาสค์ไรเดอร์ โดยมีวิญญาณปิศาจในตัวเขา นามว่า ไวซ์ คอยเป็นคู่หู ต่อสู้กับเหล่าปิศาจร้ายที่หวังจะทำลายมนุษยชาติ
โดยภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นการหยิบนำซีรีส์ Kamen Rider ที่ออกฉายในปี 1971 มาตีความใหม่ บอกเล่าเรื่องราวของ ฮอนโก ทาเคชิ (โซสึเกะ อิเคมัตสึ) หนุ่มนักศึกษามหาวิทยาลัยที่ถูกองค์กร Shocker ลักพาตัวมาและผ่าตัดเขาให้กลายเป็นมนุษย์ดัดแปลงสุดแกร่ง เพื่อใช้เขาเป็นอาวุธในการครอบครองโลก แต่เขาก็ได้รับความช่วยเหลือจาก มาสไรเดอร์ชิน รุริโกะ มิโดริคาวะ (มินามิ ฮามาเบะ) มนุษย์ดัดแปลงที่ทรยศต่อ Shocker จนหนีออกมาได้สำเร็จ ทั้งคู่จึงร่วมมือกันเพื่อขัดขวางแผนการร้ายขององค์กร Shocker
หากนับภาพยนตร์ชุด Shin ทั้ง 3 เรื่องที่ผ่านมา ได้แก่ Shin Godzilla
ซึ่งเป็นผลงานการกำกับร่วมกันระหว่าง ฮิเดอากิ อันโนะ และ ชินจิ ฮิงุจิ, Shin Ultraman กำกับโดย ชินจิ ฮิงุจิ และ Shin Kamen Rider ของ ฮิเดอากิ อันโนะ ส่วนตัวผู้เขียนคิดว่า Shin Kamen Rider น่าจะเป็นผลงานที่เราชอบน้อยที่สุด
เอาเข้าจริงๆ Shin Kamen Rider นับว่าเป็นผลงานที่อุดมไปด้วยองค์ประกอบที่มีเสน่ห์และชวนติดตามไม่แพ้สองผลงานก่อนหน้า ไล่เรียงตั้งแต่การออกแบบคาแรกเตอร์ที่เท่ มีเสน่ห์ ขณะเดียวกันก็ยังคงรักษาเอกลักษณ์ของต้นฉบับไว้ได้อย่างครบถ้วน ทั้งมุมกล้อง การใช้ซาวด์เอฟเฟกต์ และดนตรีประกอบที่แฟนๆ ทุกคนคิดถึง บวกด้วยการออกแบบมุมกล้องและกลวิธีนำเสนอที่แปลกตา ซึ่งเป็นเอกลักษณ์เฉพาะตัวของผู้กำกับ
รวมไปถึงการตีความเรื่องราวขึ้นมาใหม่เพื่อยกระดับให้ภาพยนตร์มีความสมจริงสมจังและเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นกว่าต้นฉบับ โดยเฉพาะการตีความองค์กร Shocker ขึ้นมาให้มีความร่วมสมัยมากขึ้น พร้อมกับประเด็นสำคัญที่ชวนเราตั้งคำถามว่ามนุษย์เราต้องการแค่ ‘ความสุข’ จริงหรือ
ด้วยองค์ประกอบอันโดดเด่นเหล่านี้ จึงทำให้ในช่วงครึ่งแรกของเรื่องเต็มไปด้วยเรื่องราวและฉากแอ็กชันที่สมจริง ตื่นตาตื่นใจชวนติดตาม ไม่ว่าจะเป็นฉากแปลงร่างครั้งแรกของฮอนโก การต่อสู้ระหว่าง Kamen Rider และปีศาจแมงมุมที่ดุดัน รุนแรง (ขนาดที่ต่อยกันเลือดสาด) การปูเรื่องราวให้เราได้รู้จักกับองค์กร Shocker ไปจนถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างที่มาที่ไปของผ้าผูกคอสีแดงที่เราคุ้นตาเป็นอย่างดี
แต่เมื่อตัวภาพยนตร์ดำเนินมาถึงกลางเรื่องเป็นต้นมา
ก็ดูเหมือนว่าจุดเด่นเหล่านั้นกลับไม่ได้ถูกหยิบมาใช้อย่างเต็มที่ จนทำให้กราฟความน่าติดตามของเรื่องค่อยๆ ลดน้อยถอยลงไปเรื่อยๆ
ข้อสังเกตประการแรก (และเป็นข้อที่คล้ายกับ Shin Ultraman) คือการที่ทีมสร้างใส่ฉากแอ็กชันและตัวร้ายเข้ามามากเกินไป โดยหากนับตั้งแต่ฉากเปิดเรื่องจนจบ ภาพยนตร์เรื่องนี้มีฉากแอ็กชันคร่าวๆ ประมาณ 6-7 ฉาก
แต่แทนที่ฉากแอ็กชันเหล่านั้นจะเข้ามาเสริมให้ตัวภาพยนตร์สนุกสนานมากขึ้น มันกลับส่งผลอย่างมากต่อ ‘ความต่อเนื่อง’ ของการดำเนินเรื่องที่ถูกขัดจังหวะอยู่บ่อยครั้ง และยังทำให้ภาพยนตร์มีเวลาในการพาผู้ชมไปสำรวจปมปัญหาของตัวละคร (ที่ถูกปูไว้อย่างน่าสนใจตั้งแต่แรก) น้อยลงตามไปด้วย มันจึงส่งผลให้มิติของตัวละครดูเรียบแบนเกินไป ไม่มีจุดที่ทำให้เราสามารถเชื่อมโยงหรือมีความรู้สึกร่วมไปกับตัวละครอย่างที่ควรจะเป็น
อีกหนึ่งข้อสังเกตสำคัญที่ส่งผลให้ความน่าสนใจของภาพยนตร์ลดลงอย่างเห็นได้ชัด คือการที่ทีมสร้างตัดสินใจใช้วิชวลเอฟเฟกต์ในการสร้างฉากแอ็กชันมากเกินไปจนทำให้ความสมจริงของเรื่องถูกลดทอน
โดยหากย้อนกลับไปในผลงานก่อนหน้าอย่าง Shin Godzilla ที่เล่าถึงสิ่งมีชีวิตขนาดยักษ์ถล่มเมือง และ Shin Ultraman ที่เป็นการต่อสู้ของมนุษย์ต่างดาว การใช้วิชวลเอฟเฟกต์ในการสร้างสรรค์ตัวละครและฉากแอ็กชันต่างๆ เพื่อเติมเต็มจินตนาการของทีมสร้าง จึงมีความสมเหตุสมผลและทำให้เราไม่รู้สึกติดขัดมากนัก
แต่สำหรับ Shin Kamen Rider แม้ว่าภาพยนตร์จะว่าด้วยเรื่องราวของมนุษย์ดัดแปลงที่ดูเกินจริงก็ตาม แต่มันก็ถูกวางให้อยู่ในสเกลของมนุษย์ บวกกับมนตร์เสน่ห์สำคัญที่สะดุดตาเรามาตั้งแต่ตัวอย่างคือ ‘ความสมจริง’ ของเรื่อง แต่หลังจากที่ภาพยนตร์ดำเนินมาถึงกลางเรื่อง ผู้กำกับกลับเลือกใช้วิชวลเอฟเฟกต์ในการสร้างฉากแอ็กชันเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะฉากแอ็กชันสุดท้ายที่ผู้กำกับเลือกใช้สถานที่เป็นอุโมงค์ ซึ่งมีบรรยากาศที่มืดเกินไปจนเรามองไม่ออกว่าเหตุการณ์ตรงหน้ากำลังเกิดอะไรขึ้นบ้าง มันจึงยิ่งทำให้ความสมจริงที่ควรจะเป็นจุดเด่นของเรื่องถูกลดทอนลงอย่างน่าเสียดาย
แต่สำหรับภาพยนตร์ฉลองครบรอบ 50 ปีนี้
จะเป็นการนำความคลาสสิกดั้งเดิมมาทำให้เข้ากับยุคสมัยใหม่ และคาดว่าเนื้อเรื่อง จะเน้นไปที่ ฮอนโก ทาเคชิ คนเดียว โดยใช้ชื่อว่า Shin Kamen Rider ซึ่งผู้มารับบท ฮอนโก ทาเคชิ คือ โซสึเกะ อิเกะมัตสึ นักแสดงหนุ่มวัย 31 ปี จากหนังดัง “The Last Samurai” ที่มี Tom Cruise แสดงนำ ซึ่งนักแสดงที่รับบท ฮอนโก ทาเคชิ ภาคต้นฉบับดั้งเดิมคือ ฟูจิโอกะ ฮิโรชิ ส่วนนักแสดงนำหญิงของเรื่องคือ มินามิ ฮามาเบะ จากบทบาทที่หลายคนจำได้ใน Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน(รับชมได้ทาง Netflix) โดยรับบทเป็น จาบามิ ยูเมะโกะ ตัวเอกของเรื่อง
มินามิ ฮามาเบะ ใน Kakegurui โคตรเซียนโรงเรียนพนัน
ส่วนผู้กำกับและเขียนบทก็ไม่ใช่ใครที่ไหนซึ่งก็คือ ฮิเดเอกิ อันโนะ เจ้าของผลงาน Evangelion และภาพยนตร์ตระกูล Shin อาทิ Shin Evangelion , Shin Godzilla , Shin Ultraman ซึ่งคงจะการันตีได้เลยว่าเนื้อหาจะต้องออกมาเข้มข้นตามสไตล์ ฮิเดเอกิ อันโนะ ที่มักจะใส่ความจริงจังในรูปแบบของ ศาสนา ความเชื่อ การเมือง แบบเข้มข้นจัดหนัก ชนิดที่อดคิดไม่ได้ว่า หรือ Shin Kamen Rider ถูกสร้างมาเพื่อแฟนคลับ วัย 50 อัพมากกว่าแฟนคลับที่เป็นเด็กๆดูกันนะ
ซึ่งในวันนี้ 30 ก.ย. 64 ได้มีการแถลงข่าวเปิดตัวและได้ปล่อยตัวอย่างออกมาให้ชมกันแล้ว โดยจะเป็นการคารวะต้นฉบับด้วยการนำ ScreenPlay ดั้งเดิมของปี 1971 มาใช้นั่นเองโดยจะมีความคล้ายคลึงกันมากต่างกันแค่ดีไซน์ชุดของ คาเมนไรเดอร์ และ รถมอเตอร์ไซค์ ที่ถูกปรับเปลี่ยนให้เข้ากับยุคสมัยมากยิ่งขึ้น
Shin Masked Rider เป็นเรื่องราวของ ฮอนโก ทาเคชิ ถูกลักพาตัวไปโดย “ช็อคเกอร์” องค์กรสุดชั่วร้าย และถูกดัดแปลงเป็นมนุษย์ดัดแปลง ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของแผนการยึดครองโลก ก่อนที่พวกองค์กรร้ายจะล้างสมองให้เขาให้เป็นอาวุธที่ทำตามคำสั่ง เขาก็ได้หนีออกมา และใช้ความสามารถที่ได้รับการดัดแปลงเข้าต่อสู้กับความชั่วร้าย และทำลายล้างองค์กรช็อกเกอร์ ในฐานะ “มาสค์ไรเดอร์”