เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน

เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน

เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน

เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน เธอกับฉันกับฉัน ได้กลายเป็นภาพยนตร์อีกหนึ่งเรื่องของ GDH ที่สะท้อนความอ่อนไหวของวัย และพาทุกคนย้อนวันวานกลับไปสัมผัสกับรักแรกในวัยเยาว์อีกครั้ง ผ่านฉากหลังและอุปกรณ์ประกอบฉากในยุค 90s ที่ทุกคนคิดถึงกันและความสัมพันธ์แบบรักสามเศร้าเราสามคน เมื่อยูและมีตกหลุมรักผู้ชายคนเดียวกัน

โดยมีนักแสดงหน้าใหม่ “ใบปอ ธิติยา จิระพรศิลป์” รับบท ยู-มี และ “โทนี่ อันโทนี่ บุยเซอเรท์” รับบท “หมาก” ซึ่งแม้จะเป็นภาพยนตร์เรื่องแรกและยังอ่อนประสบการณ์ แต่ทั้งคู่ก็สามารถถ่ายทอดบทบาท เธอกับฉันกับฉัน รวมถึงเก็บรายละเอียดตัวละครได้อย่างชัดเจน (แม้แต่ท่าเต้นของน้องใบปอในเรื่อง)

นอกจากนักแสดงนำ ก็ยังมีนักแสดงที่มาเติมเต็มให้หนังมีมิติมากกว่าในทีเซอร์ที่เห็น อย่างเด็กๆ ที่มารับมุขตบมุขเรียกเสียงหัวเราะในโรงได้แบบจัดเต็ม และยังเป็นการหวนจอของ กระแต – ศุภักษร เรืองสมบูรณ์ ในรอบ 15 ปี

ด้านเนื้อเรื่องอาจจะไม่ได้หวือหวา แต่ก็ชวนใจเต้นไปกับประสบการณ์ความรักในวัยเด็กที่หลายคนน่าจะเคยผ่านมา ดึงความรู้สึกสับสนตัวของละครมาเชื่อมโยงกับการเปลี่ยนผ่านของวัย เว็บดูหนังออนไลน์ฟรี 24 ชั่วโมง การหย่าร้าง ครอบครัว และยุคสมัยสู่ปี 2000 (Y2K, คำทำนายของนอสตราดามุส, โลกแตก) ได้อย่างลงตัว

ซี่งสิ่งที่โดดเด่นและน่าชื่นชมสำหรับ “เธอกับฉันกับฉัน” คือการเก็บรายละเอียดด้านภาพ อย่างชื่อตัวละคร, สี, เสื้อผ้า, นิตยสารเธอกับฉัน, พี่มอส ปฏิภาณ ไปจนถึงการดึงความรู้สึกของคนดูที่ทั้งตามทัน และเชื่อว่าแอบโดนหลอกกันบ้างในบางซีน

จึงเรียกได้ว่าเป็นหนังรักสามเศร้าสูตรสำเร็จประเดิมต้นปี ที่พอจะคาดเดาได้ และมีเรื่องราวให้อบอุ่นหัวใจ พร้อมน้ำตาซึมนิดๆ ได้ไปพร้อมกัน

“จะไม่ลืมที่เรามีกันและกันในวันนี้
จะไม่ลืมเวลาความสุขที่เราเคยร่วมมี”
และจะไม่ลืมความประทับใจจากภาพยนตร์ดีๆ ใครที่อยากย้อนวัย และฮีลใจกับหนังเรื่องนี้ เธอกับฉันกับฉัน รับชมได้แล้ววันนี้ทุกโรงภาพยนตร์

“จะไม่ลืมที่เรามีกันและกันในวันนี้
จะไม่ลืมเวลาความสุขที่เราเคยร่วมมี
ต่อจากนี้ไม่ว่าชีวิตจะพบใครคนไหน
แต่ว่าฉันจะมีเธออยู่เสมอในหัวใจ
จะเก็บไว้ เก็บใจไว้ให้เธอ เธอเท่านั้น”

เนื้อเพลง ‘กันและกัน’ ของวง ไทรอัมส์คิงดอม กำลังดังก้องอยู่ในหัวของผม หลังจากที่ได้ดูภาพยตร์เรื่อง เธอกับฉันกับฉัน จบลงในรอบสื่อมวลชน ต้องยอมรับว่า นี่เป็นภาพยนตร์ของ GDH เรื่องล่าสุดที่ผมดูแล้วกล้าพูดว่า นี่แหละความเป็น GDH ที่แฟนๆ ภาพยนตร์อยากเห็นในรอบหลายปีกลับมาแล้ว ภาพในวันวานของความตั้งใจ ความคราฟท์ทุกสิ่งให้ดูธรรมชาติและสวยงาม ภาพยนตร์เรื่องนี้ถ่ายทอดออกมาได้ตรงใจผมมากจริงๆ และก็เชื่อว่าถ้าใครได้ดูจะต้องรู้สึกแบบที่ผมกำลังรู้สึกอย่างแน่นอน

เอาแหละเพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา เดี๋ยวจะอารัมภบทอารมณ์ของตัวเองไปมากกว่านี้ เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า เพราะบทความต่อหน้าผู้อ่านทุกท่านที่กำลังจะได้อ่านต่อจากนี้ นี่คือการรีวิวภาพยนตร์เรื่อง ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ในแบบฉบับของ SPACEBAR เราจะไม่สปอยเนื้อหาของภาพยนตร์ แต่เราจะเล่าให้ฟังว่าทำไมคุณถึงควรต้องไปดูภาพยนตร์เรื่องนี้ ถ้าพร้อมแล้วตามผมมาครับ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟังกันแบบละเอียดยิบเลย

ภาพยนตร์ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ เล่าเรื่องผ่านคู่แฝด 2 พี่น้องอย่าง ยู กับ มี แฝดที่ทำทุกอย่างมาด้วยกันตั้งแต่วัยเด็ก ไปไหนมาไหนด้วยกัน เรียนด้วยกัน เล่นด้วยกันและก็รวมถึงการไปสร้างวีรกรรมต่างนานาด้วยกันตามสไตล์เด็กมัธยมต้น เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน วัยที่กำลังอยากรู้อยากลอง โดยช่วงเวลาที่พวกเธอทั้งคู่กำลังอาศัยอยู่คือยุค Y2K (ปี พ.ศ.2542) หรือยุคที่หลายคนเชื่อว่า โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ บ้างก็บอกว่า โลกจะแตก บ้างก็บอกว่า ไฟฟ้าจะดับทั่วโลกหรือไปถึงขั้นที่ตัวเลขของปีโลกจะทำให้การสื่อสารเกิดอัมพาตครั้งใหญ่ ซึ่งเธอทั้งคู่ก็รู้ดีว่า ในปี 2000 ที่กำลังจะเข้ามาถึง หลายๆ อย่างกำลังจะเปลี่ยนไปในอีกไม่ช้า รวมไปถึงชีวิตของพวกเธอต่อจากนี้ด้วย

จากเรื่องราวตรงนี้ที่เกริ่นมามันจึงนำมาสู่เรื่องราวชีวิตของ ยู และ มี

ที่มีตัวแปรอย่าง หมาก เข้ามาทำให้คำว่า คู่แฝดตัวติดกัน ค่อยๆ เกิดรอยร้าวและระยะห่างทางความสัมพันธ์ที่เปลี่ยนแปลงไปตามวันเวลาที่เคลื่อนไป รวมไปถึงสภาวะของเศรษฐกิจก็ทำให้ครอบครัว ยู และ มี ต้องพบกับเหตุการณ์ครั้งสำคัญในชีวิตที่จะเกิดขึ้นต่อจากนี้หลังเหตุการณ์ Y2K จบลง

ทีนี้ภาพรวมของภาพยนตร์เรื่องนี้คร่าวๆ จะเล่าเรื่องราวประมาณนี้ แน่นอนหลายๆ คนอาจจะเดากันต่อได้ว่า หลังจากนี้จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง ซึ่งก็ไม่แปลกหากจะเดาถูกหรือหลายคนอาจจะตัดสินใจไม่เดาแล้วเข้าไปดูในโรงภาพยนตร์เลย ซึ่งก็ไม่แปลกอีกอยู่ดี แต่สิ่งที่ผมดูแล้วสนใจภาพยนตร์เรื่องนี้และจับประเด็นออกมาได้มีดังต่อไปนี้ครับ

1.บรรยากาศ ปี 1999 ที่ชัดเจน สื่อสารความเป็น Y2K ได้ออกมาอย่างไม่เคอะเขิน
ใจความหลักที่ภาพยนตร์หยิบยกมาเป็นแกนหลักในการเล่าเรื่องครั้งนี้กับเรื่องราว Y2K ที่ดันหยิบมาตรงจุดกับความฮิตในช่วงเวลานี้ในสังคมไทยพอดิบพอดี แถมมันดันถูกเล่าออกมาได้อย่างละเอียดและเต็มไปด้วยเรื่องราวที่เกิดขึ้นจริงในยุคนั้น อาทิเช่น คำทำนายของนอสตราดามุส, ภาพถ่ายตู้สติ๊กเกอร์, รายการทไวท์ไลท์โชว์, ร้านไดโมอนกับบุฟเฟ่ต์ที่กินได้ไม่อั้นยุคแรกๆ ของประเทศไทย, ภาพยนตร์นางนาก ภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่กวาดรายได้ 100 ล้านบาทในช่วงเวลานั้นและเพลงของศิลปิน ไทรอัมส์คิงดอม ที่ทุกสิ่งถูกนำมารวมอยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ ชนิดที่เห็นแล้วมีแต่คำว่า ยุคนั้นมันต้องมีสิ่งเหล่านี้แหละที่อยู่ในชีวิตของเรา ทุกอย่างที่เกิดขึ้นมันดูจริงและธรรมชาติมากๆ อันนี้ขอชื่นชมเลย

2.ชีวิตในเมืองกรุงและชีวิตต่างจังหวัดของเด็กวัยมัธยมกับกิจกรรมที่แตกต่างกัน
อีกหนึ่งเรื่องจะขาดไปไม่ได้เลย เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน กิจวัตรประจำวันของเด็กในช่วงเวลานั้น สิ่งที่ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ สื่อสารออกมาถูกแบ่งออกเป็น 2 รูปแบบก็คือ ชีวิตของเด็กในเมืองกับเด็กต่างจังหวัด ภาพง่ายๆ ที่เห็นเลย เด็กในเมืองชีวิตประจำวันของพวกเขาจะเป็นการท่องเที่ยวไปในเมือง ไปห้างสรรพสินค้าต่างๆ เที่ยวเล่นกับเพื่อนๆ ใช้ชีวิตอย่างรวดเร็ว ส่วนเด็กต่างจังหวัดจะใช้ชีวิตแบบช้าๆ ค่อยๆ เป็น ค่อยๆ ไป แต่แฝงไปด้วยกิจกรรมสนุกๆ มากมาย อาทิเช่น การไปงานวัด, การไปเที่ยวตามสถานที่สำคัญในจังหวัด หรือจะเป็นการช่วยผู้ใหญ่ในบ้านทำงานฝีมือ ตรงนี้ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็เก็บมาครบและมันก็รู้สึกว่า ความธรรมชาติจากกิจกรรมพวกนี้แหละที่มันช่วยส่งให้ภาพยนตร์แข็งแรงขึ้นจากเนื้อหาการเล่าเรื่องที่ดูเรียบง่าย

3.คาแร็คเตอร์ ยู มี และ หมาก น้อยแต่มาก..มัดใจคนดูได้ทั้งโรงภาพยนตร์
ถือว่าเป็นความท้าทายอีกครั้งของ GDH กับการเฟ้นหานักแสดงหน้าใหม่มาถ่ายทอดเป็นตัวเอกในภาพยนตร์หลักของทางค่าย พวกเราแทบไม่ได้เห็นสิ่งนี้มานานพอสมควรเหมือนกัน ฉะนั้นแล้วขอสารภาพตรงนี้เลยว่า ตอนแรกเข้าไปดู ผมไม่ได้คาดหวังกับการแสดงของนักแสดงนำในภาพยนตร์เรื่องนี้เลย แต่พอเข้าไปดูแล้ว ผมกลับรู้สึกประทับใจทุกตัวละครอย่างประหลาด ไม่มากไปและไม่น้อยไป สื่อสารทุกอย่างออกมาได้ลงตัวมากๆ ฉะนั้นแล้วผมขออนุญาตรีวิวไปทีละคนเลยละกันครับสำหรับหัวข้อนี้

ใบปอ – ธิติยา จิระพรศิลป์ จากบท ยู และ มี ที่ทำให้คนดูอย่างพวกเราเชื่อสนิทใจว่า พี่น้องฝาแฝดคู่นี้มีตัวตนจริงๆ ทั้งสีหน้า ท่าทางที่แสดงอารมณ์ออกมา ทั้งพาร์ทแห่งความสุขและพาร์ทแห่งความเศร้า เราเชื่อจริงๆ เธอกับฉันกับฉันออกโรงวันไหน และไม่มีช่วงไหนที่สะกิดใจเลยว่า นี่คือการแสดงจากนักแสดงเพียงคนเดียว ทุกครั้งที่ใบปอปรากฏตัวบนหน้าจอทุกครั้งที่เป็นซีนของ ยู และ มี เธอดูมีเสน่ห์เอามากๆ ทั้งน้ำเสียง สีหน้าท่าทางต่างๆ ถ้านี่คือภาพยนตร์เรื่องแรกของเธอก็โปรดจดจำชื่อนี้ไว้ในอีกไม่กี่ปีต่อจากนี้ เธอคนนี้แหละคือนักแสดงคุณภาพที่เราจะได้เห็นผลงานต่อจากนี้

โทนี่ – อันโทนี่ บุยเซอเรท์ จากบท หมาก หรือ หรั่ง กับการปรากฏตัวทุกครั้งที่ทำให้แฟนภาพยนตร์ต้องรู้สึกว่า ตัวเองเป็น ยู ไม่ก็ มี หัวใจเต้นแรงเหมือนในภาพยนตร์นั้นแหละ เพราะด้วยสีหน้า รอยยิ้มและภาพรวมที่ โทนี่แสดงออกมามันทำให้เรารู้สึกว่า ตัวละครตัวนี้น่ารักน่าเอ็นดู อยู่ด้วยแล้วมีความสุขอารมณ์ประมาณนั้นเลย แถมการสื่อสารผ่านสำเนียงอีสานที่เจ้าตัวแสดงออกมาก็ทำได้ธรรมชาติและให้ความรู้สึกคล้ายกับเหมือนเห็น มาริโอ้ เมาเร่อ ครั้งแรกตอนแสดงรักแห่งสยามอะไรประมาณนั้นเลย

4.พาร์ทความสัมพันธ์หนุ่มสาวและชีวิตครอบครัวที่ยิ่งดู…ยิ่งรู้สึก ‘จริง’
ภาพยนตร์ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ อีกหนึ่งหัวข้อใหญ่และเป็นประเด็นสำคัญเลยก็คือ พาร์ทของความรักทั้งเชิงหนุ่มสาวของ 3 ตัวละคร ยู มี และ หมาก ที่ต้องพบเจอเรื่องราวที่จะทำให้ความสัมพันธ์ของความเป็นแฝดต้องสั่นสะเทือน หรือจะเป็นอีกพาร์ทหนึ่งที่ส่วนตัวผมดูแล้วชื่นชอบและประทับใจเอามากๆ พาร์ทความรักในครอบครัวกับการเข้ามาของยุค 2000 ที่กำลังบ่งบอกให้คนดูได้เห็นว่า นอกจากปัญหาโลกจะแตกที่ชาวโลกกำลังประสบแล้ว ภาวะเศรษฐกิจก็เข้ามามีบทบาทในชีวิตของคนในห้วงเวลานั้นเช่นกัน ตรงนี้จึงเป็นอีกจุดที่ภาพยนตร์ทำออกมาได้ดีมากๆ และหาจุดจบในการแลนดิ้งของเรื่องราวได้อย่างสวยงาม

5.ภาพสวย สีสดใส เพลงประกอบน่าจดจำ

งานด้านภาพปฏิเสธไม่ได้เลยว่า ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ต่อให้จะมีการใช้ CG มาประกอบในการนำตัวละครหลักอย่าง ยู และ มี มาอยู่ร่วมเฟรมเดียวกันแต่ก็ทำออกมาได้อย่างลงตัว (จะมีเลื่อมๆ ลอยๆ นิดหน่อยตอนฉากที่ทั้ง 2 คนมาอยู่ร่วมกันอยู่บ้าง แต่อันนี้ให้อภัยได้ครับ) รวมไปถึงอุณหภูมิของสีที่นำมาใช้ในเรื่องนี้มันละมุนและดูเป็นโทนที่สบายตาให้ความรู้สึกอบอุ่นตลอดเวลาที่ได้ดูเรื่องนี้อันนี้ขอชื่นชมทีมเบื้องหลังการทำงานภาพยนตร์นี้ด้วยใจจริงครับ

อีกเรื่องที่จะขาดไปไม่ได้ เพลงประกอบที่อยู่ในภาพยนตร์เรื่องนี้ การหยิบเอาเพลง กันและกัน ของ ไทรอัมส์คิงดอม มาใช้ประกอบอยู่ในหลายๆ ซีนของ เธอกับฉันกับฉัน ยิ่งทำให้รู้สึกว่า ความรัก ความผูกพันธ์ของตัวละคร ยู และ มี ดูมีน้ำหนักและมีความชัดเจนของตัวเองเอามากๆ เพลงนี้ช่วยไว้ได้เยอะเลย ที่สำคัญเพลง กันและกัน ก็มีชื่อภาษาอังกฤษว่า YOU & ME แบบนี้ด้วย ไม่รู้ว่าทางผู้กำกับตั้งใจรึเปล่า แต่ถ้ามันมีความตั้งใจ นี่คือความตั้งใจทีทำให้ผมต้องกลับมาฟังเพลงนี้อีกครั้งและนึกถึงภาพยนตร์เรื่องนี้ตอนฉายในโรง

6.พี่น้อง วรรณแวว – แวววรรณ และ โต้ง บรรจง การแท็กทีมครั้งสำคัญสู่การสร้างผลงานมาสเตอร์พีช
ข้อสุดท้ายคงจะเป็นเรื่องไหนไปไม่ได้นอกจากเรื่องของการรวมพลังครั้งสำคัญของ 2 ผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด วรรณแวว – แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ และโปรดิวเซอร์ของภาพยนตร์เรื่องนี้อย่าง โต้ง – บรรจง ปิสัญธนะกูล ที่จับมือแท็กทีมกันสร้างสรรค์ภาพยนตร์เรื่องนี้ขึ้นมาให้พวกเราได้นึกย้อนไปถึงวันวานช่วงอดีตยุคสมัย Y2K ที่หยิบจับเรื่องต่างๆ มาได้อย่างแยบยล รวมไปถึงการออกแบบคาแร็คเตอร์ของ ยู มี และ หมาก ได้อย่างลงตัวชวนให้คิดถึงภาพยนตร์ในอดีตอย่าง ‘แฟนฉัน’ ไม่น้อยเหมือนกันสำหรับ ‘เธอกับฉันกับฉัน’ ดังนั้นเมื่อมองถึงจุดนี้ไม่แน่เหมือนกัน ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะกวาดรายได้ไปมากพอสมควรก็เป็นได้จากกระแสตอบรับที่ค่อนข้างดีหลังจากที่ฉายวันแรกในวันนี้

ท้ายที่สุดนี้ ภาพยนตร์เรื่อง ‘เธอกับฉันกับฉัน’ อาจจะต้องได้รับการพิสูจน์จากแฟนภาพยนตร์เสียก่อนว่า ดีพอจะอยู่ในใจของคอหนังไทยหรือไม่ จากวันนี้เป็นต้นไป แต่สำหรับผมแล้ว ภาพยนตร์เรื่องนี้อาจจะไม่หวือหวาเหมือนภาพยนตร์ไทยเรื่องอื่นๆ ในช่วงนี้ แต่มันกลับเป็นภาพยนตร์ที่แฝงไปด้วยความพิเศษตั้งแต่ต้นจนจบและผมก็พึงพอใจมากๆ ที่ GDH กลับมาสร้างสรรค์ผลงานดีๆ แบบนี้อีกครั้ง

qmraa