เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง

เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง

เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง

เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง เนื้อเรื่อง/เรื่องย่อเรื่องราวของ ยู และ มี ฝาแฝดสาววัยแรกแย้มที่แชร์ทุกสิ่งอย่างในชีวิตร่วมกันมาตลอดตั้งแต่แรกเกิด ต่างคนต่างก็เป็นโลกทั้งใบของกันและกัน จนกระทั่งวันหนึ่งก็ได้มีเด็กผู้ชายวัยเดียวกันที่ชื่อ หมาก ได้เข้ามาในชีวิตของพวกเธอ ซึ่งเขาได้กลายเป็นชนวนเหตุเล็กๆ ที่ส่งผลกระทบอย่างยิ่งใหญ่ต่อความสัมพันธ์ของพวกเธอ
พวกเธอจะก้าวข้ามผ่านช่วงเวลาอันสับสนนี้ไปได้หรือไม่อย่างไร ไปร่วมหาคำตอบกันนะฮะจีดีเอช” เปิดตัวหนังรัก โรแมนติกฟีลกู๊ด เรื่องแรกของปี “เธอกับฉันกับฉัน”

หนังดูมีความพยายามที่จะจับยัดทุกอย่างที่อยากได้ใส่ลงไปหมด เธอกับฉันกับฉัน ทั้งปัญหาครอบครัว, ความสัมพันธ์ของฝาแฝด และ รักสามเส้า ท่ามกลางบรรยากาศย้อนยุคที่กำลังมาแรงอย่างยุค Y2K แต่คนทำหนังกลับไม่สามารถผสมผสานคลุกเคล้าทุกอย่างให้ออกมาได้อย่างกลมกล่อมและลงตัวเท่าไหร่นัก ออกมาในแนวเพลย์เซฟซะมากกว่า จะดราม่าก็ไปไม่สุด (ทั้งๆ ที่สามารถเล่นให้หนักกว่านี้ก็ได้ มีทางให้เล่นได้เยอะเลย) จะโรแมนติกรึก็ดูแปลกๆ แถมเด็กก็ยังดูแรดเกินเบอร์ไปหน่อย (จริงๆ ด้วยบริบทของหนัง ไม่จำเป็นต้องมีฉากจูบกันก็ได้นะ หรือถ้าจะมี ก็เอาแค่ First Kiss แบบมุมน่ารักๆ ก็พอแล้วมั้ยอ่ะ ไม่จำเป็นต้องถึงขนาด French Kiss เลย)

อีกประเด็นหนึ่งที่ไม่เข้าใจว่าคนทำหนังจะใส่เข้ามาทำไม นั่นคือฉากที่ตัวละคร ยู/มี ถอดเสื้อ แม้จะมีเฟิร์สบราหรือเสื้อซับในอยู่ก็ตาม (ตัวละครอายุน่าจะประมาณแค่ 13-14 ปีเท่านั้น) ซึ่งดูจากบริบทของหนังแล้วมันก็ไม่จำเป็นต้องใส่ซีนนี้เข้าไปก็ได้นะฮะ (แถมยังมีถึง 2 ฉากเลยทีเดียว ถ้าจำไม่ผิดนะ)

และด้วยพลอตเรื่องง่ายๆ ที่ไม่มีหักมุมอะไร บวกกับวิธีการเดินเรื่องคล้ายๆ ดูหนังใหม่ออนไลน์ฟรี hd กับหนังรักโรแมนติกของญี่ปุ่นที่เป็นลักษณะเดินเรื่องไปแบบเรื่อยๆ เนือยๆ เนิบๆ นั่นจึงทำให้ถ้าใครที่ไม่สามารถโฟกัสอยู่กับเรื่องราวที่กำลังดำเนินไปได้ตลอดเวลา รับรองว่ามีช่วงเบื่อแน่นอนฮะ

นอกจากการเดินเรื่องที่เรียบๆ แล้ว อีกสิ่งหนึ่งที่ไม่ค่อยโดนใจเท่าไหร่ก็คือเรื่องความสัมพันธ์ของตัวละครฝาแฝด ยู และ มี คือด้วยความที่ตัวละครทั้งสองเป็นฝาแฝด ดังนั้นทางด้านความสัมพันธ์แบบพี่น้องจึงควรที่จะถ่ายทอดออกมาให้ลึกกว่าคู่พี่น้องทั่วๆ ไป ยิ่งโดยเฉพาะผู้กำกับที่เป็นคนเขียนบทเองก็เป็นฝาแฝดด้วย แต่สิ่งที่เล่าออกมากลับกลายเป็นแค่เรื่องผิวๆ ที่ไม่สามารถทำให้เราอินไปกับเรื่องราวที่เกิดขึ้นได้ดีพอ คือหนังมันให้ความรู้สึกแค่ประมาณหนังแนวรักสามเส้าของคู่พี่น้องธรรมดาๆ เท่านั้น ซึ่งจริงๆ การที่ใช้ตัวละครเป็นฝาแฝด มันควรจะสื่ออะไรให้ลึกกว่านี้ได้นะ

อย่างเช่นเรื่องการสลับตัวกันแล้วไม่มีคนจับได้ หรือแม้กระทั่งพ่อและแม่เองที่บางครั้งยังจำผิดคนเลย ซึ่งตรงประเด็นเหล่านี้ก็พอเข้าใจแหละว่าคนทำหนังต้องการจะสื่ออะไร แต่มันยังไม่ค่อยทัชเท่าไหร่อ่ะ คือถ้าคนดูที่ไม่ใช่ฝาแฝดกันจริง น่าจะไม่สามารถเข้าใจอารมณ์ของตัวละครในประเด็นเหล่านี้ได้อย่างชัดเจนพอ

ซึ่งเป็นปีที่กำลังย่างเข้าสู่สหัสวรรษใหม่

ปีที่คนทั่วโลกจับตาเรื่องโลกแตกและประเด็น Y2K ซึ่งจริง ๆ เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง ก็เป็นประเด็นที่อยู่ใน Pop Culture ทั้งไทย และเทศ มาหลายต่อหลายเรื่องแล้ว แต่เรื่องนี้มันพอดีที่หนังบังเอิญเข้าโรงประจวบเหมาะกับช่วงที่เทรนด์แฟชั่น Y2K กำลังกลับมาอินเทรนด์พอดีด้วย มันเลยมีกลิ่นอายที่ให้คนกลุ่มหนึ่งคิดถึงวันวาน มี easter eggs มากมายให้คนดูกลุ่มนั้นรู้สึกมีส่วนร่วม มันเลยเป็นหนัง feel good สไตล์ถนัดของค่าย GDH

และสิ่งที่ดีที่สุดที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยคือ เสน่ห์และแววดาวของดาวดวงใหม่ “น้องใบปอ” ที่แสดงเป็นแฝด “ยู & มี” ได้เนียนกริบจนนึกว่าเป็นคนละคนแสดงจริง ๆ และน้องก็น่ารัก (ขัดใจแค่ช่วงที่เป็นผมหน้าม้า แค่นั้นเลย) แววดีมีอนาคต อนาคตเป็น “ใบเฟิร์น 2” ได้ (แต่อย่าเป็นจะดีกว่า เพราะเป็นตัวเองย่อมดีที่สุด) ส่วน “น้องแอนโทนี” ก็น่ารักและเป็นธรรมชาติ ถ้าตัวจริงเป็นคนเข้าถึงง่ายและเป็นมิตรแบบตัวละคร “หมาก” ในเรื่อง น้องก็อนาคตไกลอีกคนได้ไม่ยากเช่นกัน

แต่สุดท้ายแล้ว You & Me & Me: เธอกับฉันกับฉัน

ก็เป็นหนังไทยเรื่องหนึ่งที่ไม่ได้มีความน่าจดจำหรือความจำเป็นต้องดูซ้ำ (หรืออาจไม่จำเป็นต้องดูโรงเลยก็ได้ อย่างที่บอก) เพราะเนื้อเรื่องไม่ได้มีอะไรแปลกใหม่หรือมีคุณค่ามากมายอะไรนอกจากจะมาชวนระลึกความหลังในวัยเยาว์ รักครั้งแรกของวัยรุ่นวุ่นรัก ปิดเทอมใหญ่หัวใจว้าวุ่น ฯลฯ

พาร์ทความรักก็เดาเรื่องได้หมดตั้งแต่ 5 นาทีแรกว่าพระเอกรักใคร แล้วต่อไปความวุ่นวายมันจะมาในรูปแบบไหน (ยังไม่นับที่ตัวอย่างหนังก็เล่าไปเกือบหมดแล้ว) แล้วความรักแบบเด็ก ๆ มันมักเต็มไปด้วยความน่าลำไยอยู่แล้ว (เช่น มึงจะทำแบบนั้นเพื่ออออ? อีเด็กง่าวววว) มันจึงไม่ได้ทำให้ผู้ใหญ่อย่างเราอยากเอาใจช่วยมากเท่าไหร่นัก

พาร์ทครอบครัว มีการเล่นประเด็นการหย่าร้างหรือการแยกทาง เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง ซึ่งการแยกทางน่าจะเป็นธีมหลักของหนังได้เลย อย่างที่หนังก็แฝงมามากมาย ทั้งฉากแบ่งซาลาเปา ฉากแบ่งไอติมยักษ์คู่ ฯลฯ จะเห็นได้ว่า ถ้าตั้งใจจะขยี้ มันขยี้ได้อีก แต่หนังไม่ขยี้ มันเลยไปไม่สุด เพราะหนังไปเน้นขายพาร์ทความรักสามเส้าของสองพี่น้องฝาแฝดที่น่าลำไย (ถึงแม้น้องใบปอกับน้องแอนโทนีจะน่าฮักอีหลีก็ตาม)

อาจใจร้ายไปหน่อยถ้าจะเอาหนังไทยไปเปรียบเทียบกับหนังเข้าชิงออสการ์ แต่เอาเป็นว่า เราแค่อยากพูดถึงนิดนึง เพราะเราเพิ่งได้ดูหนังว่าที่ออสการ์เรื่อง “The Fabelmans” มาในเวลาไล่ ๆ กันมาก แล้ว Steven Spielberg พ่อมดแห่งฮอลลีวู้ด ได้เล่าประเด็นครอบครัวแยกทางได้อย่างยอดเยี่ยมตราตรึง และเล่าเรื่องของชีวิตในวัยเยาว์ของตัวผู้กำกับเองเช่นกัน ซึ่งเราชอบมาก ๆ แบบขึ้นหิ้งไปแล้ว จึงทำให้สตอรี่ของ You & Me & Me: ในส่วนของครอบครัว มันกลายเป็นงานคนเขียนบทมือสมัครเล่นไปโดยปริยาย

‘เธอกับฉันกับฉัน’ คือหนังที่ค่อยๆพาผู้ชมเข้าสู่โลกของฝาแฝด

ที่ทั้งมีข้อดีและข้อเสียแตกต่างกันไป หลายอย่างอาจจะเป็นมุมอินไซด์ที่คนทั่วไปอาจไม่ได้รู้มาก่อน ทำให้เกิิดพล็อตที่ทั้งสนุกสนานและยุ่งเหยิงได้มากมาย จากการที่เธอทั้งสองหน้าเหมือนกัน แทบจะเป็นคนๆเดียวกัน และในขณะเดียวกัน มันก็ถูกเล่าผ่านโครงเรื่องในลักษณะ รักแรก ผสมกับ รักสามเส้า ทำให้นอกจากมุมดีต่อใจแล้ว ผู้ชมสามารถคาดเดาได้เลยว่า จะได้เจอมุมบีบหัวใจอย่างแน่นอน ทำให้หนังนอกจากจะน่าติดตามในปมเรื่องแฝดแล้ว ยังน่าจะทำให้ผู้ชมอินในประเด็นรักแรก หรือรักในวัยเรียนได้อีกด้วย

สิ่งที่เพิ่มความน่าสนใจให้กับ ยิ่งขึ้นไปอีก คือการที่หนังเลือกเล่าในบรรยากาศปลายยุค 90s ซึ่งเป็นอีกหนึ่งยุคที่มีเสน่ห์เฉพาะตัวเพราะอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน กำลังเข้าสู่ยุคออนไลน์ หนังสนุกกับการหยิบ Pop Culture ในยุคนั้นมาเล่นหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นภาพยนตร์ที่ฉายในปีนั้น เพลงดังที่ถูกปล่อยในช่วงนั้น ร้านอาหารที่เป็นที่นิยมของคนยุคนั้น ไปจนถึงไอเท็มบางอย่างที่บอกยุคสมัยได้อย่างดี สำหรับผู้ชมที่สมัยหนัง แฟนฉัน เข้าฉายแล้วอาจจะเกิดไม่ทัน

ไม่ได้อินกับเรื่องแวดล้อมในหนัง เธอกับฉันกับฉัน นักแสดง อาจจะมาอินกับหนังเรื่องนี้ได้ไม่ยาก สำหรับใครที่อายุราว 30-40 ปี น่าจะเป็นช่วงที่กำลังเติบโต กำลังเสพสื่อ กำลังใช้ชีวิตผ่านช่วงเวลานั้น หนังทำให้ผู้ชมระลึกถึงความทรงจำในอดีตอันหอมหวานได้อย่างดีอีกด้วย

แต่สิ่งที่น่าชื่นชมมากที่สุด ต้องยกให้กับงานสร้าง ที่อาจกล่าวได้ว่า นี่คืองานที่ไม่ง่ายเลยทั้งสำหรับทีมงานและนักแสดง เพราะเมื่อ ใช้นักแสดงเพียงคนเดียว เล่นเป็นฝาแฝด ดังนั้นเทคนิคการถ่ายทำหลายๆอย่างจึงถูกหยิบนำมาใช้ ส่วนที่ง่ายหน่อยน่าจะเป็นซีนที่ถ่ายผ่านหลัก ทำให้เห็นตัวละครเพียงคนเดียว แต่สำหรับฉากที่ต้องเห็นทั้งสอง ทั้งถ่ายทำและตัดต่อออกมาได้เนี้ยบมากๆ จนแทบจะไม่มีจุดไหนรู้สึกสะดุดเลย และที่สำคัญต้องชื่นชมน้องใบปออย่างยิ่ง

ที่สร้างคาแรคเตอร์ ยูกับมี ออกมาแตกต่างได้อย่างชัดเจน ในช่วงแรกอาจจะต้องตั้งใจดูเพื่อจับความแตกต่างพอสมควร แต่เมื่อหนังดำเนินไป ไม่ใช่แค่ไฝที่ต่าง แต่วิธีการพูด ลักษณะของตัวละครก็สามารถแยกได้ชัด ซึ่งเป็นงานที่ไม่ง่ายเลยสำหรับนักแสดงหน้าใหม่ ซึ่งต้องปรบมือชื่นชมในจุดนี้

โดยรวม ถือเป็นหนังไทยที่น่าสนใจและไม่ควรพลาดอีกเรื่อง ด้วยคุณภาพที่กล่าวได้ว่าตามมาตรฐานค่ายจีดีเอช ทั้งในแง่บท งานสร้าง และองค์ประกอบต่างๆ ใครที่เคยคิดถึงหนังอารมณ์ดี หนังแนว Coming-of-Age ที่ทางค่ายเองก็ไม่ได้สร้างหนังแนวนี้มาพักใหญ่ นี่คือการกลับมาที่น่าพอใจ และเชื่อว่า หนังจะสามารถเข้าไปอยู่ในใจของผู้ชมหลายต่อหลายคนได้อย่างแน่นอน

ของ ผู้กำกับพี่น้องฝาแฝด วรรณแวว และ แวววรรณ หงษ์วิวัฒน์ ถือเป็นหนังไทยที่ดีเกินมาตรฐานค่าเฉลี่ยหนังไทย แต่ก็เป็นแค่หนัง GDH เรื่องหนึ่ง ที่พอดูได้ฆ่าเวลาก็เท่านั้นและอาจไม่จำเป็นต้องรีบไปดูในโรง

qmraa

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *