ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เป็นภาพยนตร์อนิเมะที่ออกฉายใน คริสต์ศักราช 1994 ของสตูดิโอจิบลิ ควบคุมโดยอิซาโอะ ทากาฮาตะ
กลุ่มคำ “ปอมโปโกะ” ในชื่อภาพยนตร์สื่อถึงเสียงที่ทานูกิตีท้อง มาจากบทกลอนใน คริสต์ศักราช 1919 โดยอูโจ โนงูจิที่แปลงเป็นเพลงเด็กยอดฮิตขณะที่ปรับปรุงแก้ไขดัดแปลงเป็นดนตรีใน คริสต์ศักราช 1925
ชิเงรุ ซูงิอูระ ฮิซาชิ อิโนอูเอะ และก็ชิเงรุ ไม่ซูกิได้รับเครดิตเป็นเจ้าหน้าที่เพิ่มเติมอีก ผู้ออกแบบทานูกิและก็โยไกหลายตน รวมทั้งเรื่องราวนิดหน่อยมาจากผลงานของอีกทั้งสาม
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994)
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เป็นเลิศในผลงานของสตูดิโอจิบลิที่โด่งดัง เด่นด้วยเรื่องราวที่ผสมตำนานพื้นเมืองประเทศญี่ปุ่นกับเรื่องจริงยุคใหม่ โดยภาพยนตร์นี้เล่าถึงกรุ๊ปทานูกิ (สัตว์ที่เหมือนแร็กคูน) ที่อาศัยอยู่ในเทือกเขาใกล้เมืองโตเกียว เมื่อมนุษย์เริ่มรุกล้ำเข้ามาเพื่อสร้างเมืองใหม่ ทานูกิพวกนี้ก็เลยต้องหาทางต่อสู้เพื่อคุ้มครองป้องกันถิ่นที่อยู่อาศัยของพวกเขา
จุดแข็งของ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เป็นการเล่าเรื่องที่เต็มไปด้วยจินตนาการและก็ความตลก แม้กระนั้นในเวลาเดียวกันก็สะท้อนถึงปัญหาสภาพแวดล้อมแล้วก็การขยายตัวของเมืองที่ส่งผลกระทบต่อธรรมชาติได้อย่างถ่องแท้ ภาพยนตร์ใช้ภาพอนิเมชันที่สวยสดงดงามและก็มีความเป็นเอกลักษณ์ รวมทั้งการนำเสนอวิถีชีวิตและก็การกระทำของทานูกิที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกเพลินรวมทั้งขำกับการต่อสู้ที่น่ารักน่าเอ็นดูแม้กระนั้นรุนแรงของพวกเขา
ยิ่งไปกว่านี้ การใช้เสียงบรรยายและก็ดนตรีประกอบยังช่วยเสริมอารมณ์ของเรื่องราว ทำให้ผู้ชมรู้สึกผูกพันกับทานูกิแล้วก็เข้าใจในเรื่องความเจ็บที่พวกเขาจำต้องพบเจอเมื่อรกรากของพวกเขาถูกทำลายไปโดยไม่มีวันเลือก
แม้ว่าจะมีฉากขบขันรวมทั้งอบอุ่น แม้กระนั้น “ปอมโปโกะ” ก็ซ่อนเร้นด้วยความซึมเศร้าแล้วก็เตือนสติถึงผลพวงจากการพัฒนาเมืองอย่างเร็ว การสูญเสียของทานูกิจึงสะท้อนถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างธรรมชาติกับเทคโนโลยีรวมทั้งความก้าวหน้า เป็นภาพยนตร์ที่ให้ข้อคิดเตือนใจแล้วก็กระตุ้นให้ผู้ชมนึกถึงอนาคตของโลกธรรมชาติ
สำหรับผู้ที่รักผลงานของสตูดิโอจิบลิ
หรือถูกใจภาพยนตร์ที่แอบแฝงด้วยปรัชญาและก็ความหมายที่ลึกซึ้ง “ปอมโปโกะ ทานูกิปั่นป่วนโลก” เป็นภาพยนตร์ที่ไม่สมควรพลาด
Heisei-era Raccoon Dog War Pom Poko หรือ The Raccoon War หรือ Watch Pom Poko แม้กระนั้นคนส่วนมากจะรู้จักในชื่อ Pom Poko ที่มีชื่อไทยว่า ปอมโปโกะ ทานูกิปั่นป่วนโลก อนิเมะในความจำของนักเขียนอีกหนึ่งเรื่องเลยก็ว่าได้สำหรับอนิเมะประเด็นนี้ จากเจ้าเดิมเจ้าเดิมอย่าง สตูดิโอจิบลิ (Studio Ghibli)
ควบคุมโดย คุณครู อิซะโอะ ทะกะฮะตะ เป็นอนิเมะที่แก่อยู่พอเหมาะพอควร ที่ออกฉายตั้งแต่ 16 เดือนกรกฎาคม คริสต์ศักราช 1994 ถือว่าเป็นอนิเมะในความจำที่นักเขียนถูกใจมากมายๆเรื่องหนึ่งเลยก็ว่าได้ กับเรื่องราวความวายป่วงที่เกิดขึ้นในเรื่องราวแล้วก็รวมถึงความท้องนารักของลายเส้นแล้วก็งานบรรยายไทยที่เป็นเอกลักษณ์
ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เรื่องย่อเรื่องราวเล่าถึงทานูกิที่อาศัยอยู่ในป่าที่เวลาอยู่นอกสายตาของคนเราแล้วพวกเหล่าทานูกิ ก็จะเปลี่ยนเป็นอีกแบบหนึ่ง ซึ่งสามารถบอกได้และจากนั้นก็ยืนสองขาคล้ายกับมนุษย์ แม้กระนั้นแล้ววันหนึ่งก็ได้มีการดายป่าและก็เทือกเขาขึ้น ก็ทำให้ป่านั้นเบาๆหายไปทีละเล็กทีละน้อย ก็เลยทำให้พวกทานูกินั้น สู้และก็ช่วยเหลือกันหาวิธีการที่จะเอาป่ากลับมาให้ได้
โดยพวกทานูกิธรรมดาแล้วจะอยู่กันเป็นหลายกรุ๊ป แม้กระนั้นเพื่อร่วมมือกันที่จะเอาป่ากับมานั้น ก็ได้จับกลุ่มกันเป็นกรุ๊ปเดียวแล้วก็คิดแผนกันเพื่อเอาชนะรวมทั้งได้ป่าที่สวยสดงดงามคืนมา
ปอมโปโกะ ทานูกิปั่นป่วนโลกแล้วเหล่าทานูกิก็ต้องฝึกซ้อมวิชาเปลี่ยนร่างเป็นข้าวของต่างๆรวมทั้งเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์ก็ด้วย แม้กระนั้นผลข้างเคียงของการเปลี่ยนร่างก็มีเช่นเดียวกันก็เลยทำให้พวกเหล่าทานูกิจะต้องฝึกหัดอย่างมาก แต่ว่าก็ไม่ใช่ทานูกิทุกตัวที่จะสามารถแปลงร่างได้ เมื่อพวกเขาได้ฝึกหัดจนกระทั่งพร้อมแล้วเขาก็ได้เริ่มแนวทางทั้งยังกลยุทธ์เล็กแนวทางใหญ่ และก็ใช้หลายแนวทางตั้งแต่เปลี่ยนร่างเป็นผีไปหลอกคนภายในเมืองหรือจะก่อให้เสียชีวิตเลยก็มี
โดยประเด็นนี้จะเล่าราวเริ่มขึ้นในตอนปี 60
สมัยโชวะ ตอนสมัยที่เศรษฐกิจของประเทศญี่ปุ่นนั้นมีความก้าวหน้าถึงขีดสูงสุด ทำให้มนุษย์นั้นปรารถนาขยายถิ่นที่อยู่กันมากขึ้นเรื่อยๆ ทำให้พื้นที่แถบเทือกเขาเบาๆถูกกลายเป็นโครงเมืองใหม่ “ทามะ” อย่างที่เข้าใจกันดีกว่าความเจริญรุ่งเรืองของคนเราจำเป็นต้องแลกเปลี่ยนกับป่าดงธรรมชาติที่หายไปทุกวี่วันๆโดยเหตุนั้นเหล่าทานูกิในแถบเขาทามะจะต้องจัดการกับความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้น เมื่อสิ่งก่อสร้างต่างๆเข้ามาแทนสถานที่ที่พวกเขาเคยพักอาศัย ของกินก็เริ่มลดลง
จนถึงทำให้พวกเขาจะต้องมาเปลี่ยนแปลงเพื่อเอาชีวิตรอดแทน เหล่าทานูกิอาวุโสถึงกับขนาดจำเป็นต้องเรียกสัมมนาหาลือกัน ทั้งยังด้วยกันคิดแผนโครงงาน 5 ปีด้านหน้าเกี่ยวกับประเด็นนี้เพื่อหาแนวทางต่อกรสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้น ซึ่งในหัวข้อนี้ผู้ชมจะได้มองเห็นถึงความนึกคิดที่แตกต่างระหว่างคนรุ่นหลังรวมทั้งคนสมัยก่อนสำหรับเพื่อการจัดการสิ่งที่เกิดขึ้น
ผู้แสดงหลักจะมีกอนตะทานูกิผู้ถูกใจใช้แนวทางร้ายแรงรู้สึกว่าการต่อสู้ให้หักกันไปข้างหนึ่งเป็นแนวทางที่เยี่ยมที่สุด ผู้เฒ่าทสึรุกาเม ทานูกิอาวุโสที่เป็นที่น่าเคารพนับถือในเหล่าทานูกิ รอแนะนำตามหลังคนแก่กว่าที่จะมาจากเมืองอื่น รวมทั้งโชกิชิทานูกิแบบใหม่ผู้ใช้แนวทางกลายร่างไปหลอกมนุษย์ แล้วแนวทางไหนล่ะที่จะทำให้เหล่าทานูกินั้นอยู่รอดในสังคมที่กำลังเปลี่ยน ทุกคนจำต้องทดลองไปรับดูมองนะคะ การันตีว่าจะได้ทั้งยังความสนุกสนานและก็ข้อคิดเตือนใจมากจากหัวข้อนี้อย่างไม่ต้องสงสัย
ผลสรุปการต่อสู้ของเหล่าทานูกิจะเป็นไปในแนวทางไหน? พวกเขาจะดำรงชีพท่ามกลางการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นยังไง? ติดตามการต่อสู้เพื่อทุ่งนา ต้นไม้ แล้วก็ป่า ของเหล่าทานูธุระอมรับประทานจุ ผู้แสนร่าเริงอยู่เป็นประจำ กลุ่มนี้กันได้ใน “Pom Poko ปอมโปโกะ ทานูกิปั่นป่วนโลก” อีกหนึ่งผลงานอนิเมชั่นดีๆจากจังหวัดสตูลดิโอจิบลิที่ทุกคนไม่สมควรพลาด…
เรื่องย่อ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994) เรื่องราวเกิดขึ้นในตอนปี คริสต์ศักราช 1960-1969 ในประเทศญี่ปุ่น ฝูงตัวทานุกิ (หรือ “สุนัขแร็คคูน” ของประเทศญี่ปุ่น) ถูกรุกรานจากการขยายที่ดินเพื่อเลี้ยงชีพแถบเนินทามะ, เฉลียงกรุงเมืองโตเกียว โดยมนุษย์ ซึ่งจะต้องตัดต้นไม้ที่เป็นราวกับบ้านแล้วก็ใช้พื้นที่ร่วมกับพวกมัน การก่อสร้างดำเนินไปโดยตลอดจนกระทั่งตอนแรกของสมัย 90s สำเร็จให้พื้นที่อาศัยรวมทั้งของกินลดน้อยลงอย่างน่าตกใจ ฝูงทานุกิเริ่มที่จะต่อสู้เพื่อรักษาบ้านของพวกมันเองไว้ พวกมันก็เลยตกลงใจที่จะทำการต้านทานมนุษย์ โดยใช้ความรู้ที่มีอยู่ เป็นการแปลงตัว และก็หยุดการพัฒนาที่ดินพวกนั้น แต่ว่าไม่เป็นผลสำเร็จ ด้วยเหตุนี้พวกมันก็เลยศึกษาที่จะดำรงชีวิตร่วมกับมนุษย์อย่างสงบ
1 ซีน (Scene)หมายถึง“ฉาก”
เกี่ยวกับเรื่องของฉาก / เป็นอนิเมะที่มีความเป็นตัวตนของคุณครู อิซะโอะ ทะกะฮะตะ สูงมากมายๆกับเรื่องราวที่จำต้องพูดว่ามีความเป็นแถวให้แง้คิดหน่อยๆธีมข้างหลังที่อนิเมะให้มานั้นก็เป็นธรรมชาติที่ยังสมบูรณ์บริบูรณ์เต็มไปด้วยผู้คนและก็เหล่าสัตว์น้อยใหญ่ การเล่าธีมข้างหลังประเด็นนี้จัดว่าทำเป็นดีเยี่ยมๆถึงแม้อนิเมะจะจำแนกแยกแยะไว้ภายในเรท PG13+ แต่ว่าเอาเข้าจริงๆเป็นภาพยนตร์ที่เด็กบางครั้งก็อาจจะดูแล้วมิได้รู้สึกถูกใจ
ด้วยเหตุว่ารายละเอียดมันมิได้ออกมามาให้เด็กรู้เรื่อง แต่ว่าในส่วนใดส่วนหนึ่งนั้นจะว่าก็ว่าได้เด็กที่ชอบใจส่วนใดส่วนหนึ่งก็บางทีก็อาจจะมาจากลายเส้นที่เป็นเอกลักษณ์ ของคุณครูอิซะโอะ ทะกะฮะตะ ก็เป็นไปได้ ในส่วยของธีมข้างหลังพวกเราจะได้เป็นความวายป่วงเบาๆมากขึ้นที่ละนิดการทำลายธรรมชาติสร้างสิ่งก่อสร้างต่างๆและก็อนิเมะก็เล่ามันออกมาได้อย่างเห็นได้ชัดมากมายๆอย่างไม่เขิน ธีมหลักพวกเราจะได้มองเห็นเรื่องราวความเป็นไปเป็นมาของกลุ่มตัวป่วนอย่างพวกทานูกิ ออกมาสร้างความสนุกสนานในลักษณะของอนิเมะเด็กไม่มีผิดเพี้ยนรวมทั้งเป็นไปเป็นมาตามสูตรสำเร็จ
ต่อจากการนำเสนอภาพรวม
ของ ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนโลก Pom Poko (1994)สิ่งที่ทำให้ภาพยนตร์นี้มีเอกลักษณ์เป็นกรรมวิธีเล่าที่ซ่อนเร้นด้วยเครื่องหมายแล้วก็การเปรียบเทียบเปรยๆถึงความไม่ลงรอยกันระหว่างมนุษย์รวมทั้งธรรมชาติ ในรูปภาพยนตร์ ทานูกิสามารถเปลี่ยนรูปร่างเป็นสิ่งต่างๆได้ ซึ่งเป็นทั้งยังส่วนประกอบที่สร้างความสนุกสนานร่าเริงให้กับเรื่องราวและก็สะท้อนถึงความอุตสาหะสำหรับเพื่อการปรับนิสัยของธรรมชาติเพื่อต่อสู้กับการคุกคามจากมนุษย์
แต่ว่าหากแม้ทานูกิจะมีความรู้สำหรับการเปลี่ยนแปลงรูปร่างแล้วก็สร้างความอัศจรรย์ต่างๆเรื่องราวกลับพรีเซ็นท์เรื่องจริงที่ว่า ธรรมชาติไม่อาจจะเอาชนะพลังของการพัฒนาเมืองได้ ภาพยนตร์ชี้ให้เห็นถึงความแพ้พ่ายของทานูกิเมื่อเมืองโตเกียวขยายตัวถัดไป รวมทั้งการล้มล้างป่าดงรวมทั้งที่พักอาศัยของพวกเขา แปลงเป็นเครื่องหมายของการสิ้นไปที่เกือบจะหลบหลีกมิได้ในสังคมที่มุ่งเข้าสู่ความเจริญรุ่งเรือง
เงื่อนทางอารมณ์ของภาพยนตร์ก็เลยขัดแย้งระหว่างความเฮฮารวมทั้งความเศร้า ซึ่งเป็นจุดแข็งที่ทำให้ผู้ชมรู้สึกผสมทั้งยังความสำราญ ความระลึกถึง รวมทั้งความหมดหวังสำหรับในการเพียรพยายามคุ้มครองป้องกันสิ่งมีราคา ภาพยนตร์หัวข้อนี้ยังถามเกี่ยวกับอนาคตของธรรมชาติและก็ความสมดุลระหว่างการพัฒนาแล้วก็การอนุรักษ์และรักษา โดยไม่บอกให้ผู้ชมมองเห็นคำตอบที่เด่นชัด แม้กระนั้นกระตุ้นให้นึกถึงลู่ทางของคนเราสำหรับในการอยู่ร่วมกับธรรมชาติ
“ปอมโปโกะ” ก็เลยสำเร็จงานที่มิได้เพียงแค่สร้างความสนุกสนาน แม้กระนั้นยังเป็นงานศิลปะที่สะท้อนสังคมแล้วก็โลกที่กำลังเปลี่ยนอย่างเร็ว เหมาะกับผู้ชมที่ถูกใจภาพยนตร์ที่มีชั้นความหมายลึกซึ้ง
จัดเป็นอนิเมชั่นซึ่งสามารถปลูกฝังเรื่องราวให้เด็กๆ
หรือแม้กระทั้งคนแก่ฉุกคิดถึงสิ่งที่เกิดขึ้นในปัจุบันก้าวหน้า สำหรับเรื่องราวความเคลื่อนไหวที่เกิดขึ้นในธรรมชาติ ซึ่งล้วนแต่ส่งผลมาจากความประพฤติแล้วก็สิ่งที่ต้องการของคนเรา โดยการเล่าเรื่องราวมีความง่ายๆ
ทั้งยังแอบแฝงแง่คิดให้พวกเราได้หันมามองดูการกระทำที่เกิดขึ้นมาจากฝีมือมนุษย์ต่อเหล่าสิงมีชีวิตอื่นๆที่เกิดขึ้น ที่หากแม้โดยรวมนั้นจะมิได้ลงเอยด้วยดี แต่ว่าการเล่าเรื่องก็มิได้พาให้ผู้ชมรู้สึกดราม่านัก ตรงกันข้าม… ในเรื่องได้มีใส่เเทเกลื่อนกลาดความน่ารักน่าเอ็นดูของเหล่าทานูกิให้ผู้ชมได้ทราบสึกยิ้มไปจนถึงตลอดเรื่องตามสไตล์จิบลิเหมือนปกติ
สำหรับหัวข้อนี้นักเขียนให้ 10 เต็ม 10 ไปเลยรัวๆค่า เป็นอีกหนึ่งเรื่องที่ต้องการให้ทุกคนได้มองจริงๆคนเขียนถูกใจแนวความคิดที่แทรกสอดแต่ว่าซ่อนเร้นไปนัยๆไม่ว่าจะเป็นการบอกถึงการคืบคานเข้ากลืนชีวิตที่เรียบง่ายของทานูกิ รวมทั้งการล่มสลายวัฒนธรรมหลายๆอย่างของแคว้นที่ต้องหายไปกับการความเจริญรุ่งเรืองที่เข้ามา หรือแนวความคิดแทรกสอดเชิญอย่างให้หันมารักธรรมชาติกันมากเพิ่มขึ้น
หากทุกคนมองใกล้จะจบพวกเราจะมองเห็นฉากที่น่าสลดใจที่สุดเป็นฉากที่เหล่าทานูกิต่างแปลงตัวเป็นปีศาจไปหลอกมนุษย์ แม้กระนั้นมนุษย์กลับดูเกิดเรื่องตลกขบขัน แล้วนักลงทุนฉลาดต่างก็จะมาใช้ประโยชน์จากเรื่องความเลื่อมใสนี้เพื่อไปรายได้ ทั้งๆที่เรื่องความเลื่อมใสนี้เล่ากันมาเพื่อสอนให้มนุษย์แบบใหม่ๆรู้จักบาปไม่ถูกถูกใจเลวดีจริงๆส่วนเรื่องภาพ กราฟิก นับว่าทำออกมาได้ดีมากเลยเชียวในสมัยนั้น สร้างออกมาให้เด็กมองได้ คนแก่ดูดีจริงๆ qmraa
เป็นภาพยนตร์ที่ทำรายได้ในประเทศชั้น 1 ใน คริสต์ศักราช 1994 โดยมีรายได้จากการจำหน่ายถึง ¥2.63 พันล้าน รวมทั้งรายได้จากบอกซ์สำนักงานถึง ¥4.47 พันล้านทำให้แปลงเป็นภาพยนตร์แอนิเมชันที่มีรายได้สูงเป็นชั้น 2 ของปีนั้น ด้อยกว่าเพียงแค่เดอะไลอ้อนคิง
ส่วนในคอยตเทนโทเมทส์ ภาพยนตร์ได้รับเรตท้วงติงเห็นด้วยถึง 86% จากรีวิว 14 อัน ภาพยนตร์นี้ได้รับเลิอกเป็นภาพยนตร์ประเทศญี่ปุ่นเข้าชิงในรางวัลออสการ์ สาขาภาพยนตร์นานาประเทศเยี่ยมที่สุดปีนั้น และก็ชนะรางวัลภาพยนตร์แอนิเมชันดีเด่นในรางวัลภาพยนตร์ไมนิจิครั้งที่ 49
การเดินเรื่องใน “ปอมโปโกะ ทานูกิป่วนปั่นโลก” นั้นยังมีความแปลกใหม่ในขั้นตอนการพรีเซนเทชั่น ที่ทำให้เรื่องราวมีมิตินานัปการ ทั้งยังการประสมประสานระหว่างตำนานประจำถิ่นประเทศญี่ปุ่นเกี่ยวกับทานูกิที่เป็นสัตว์ดีเลิศในความศรัทธา กับการสะท้อนถึงข้อเท็จจริงที่เหี้ยมโหดในสังคมยุคใหม่ เรื่องราวก็เลยมิได้เป็นเพียงแต่การต่อสู้ของทานูกิแล้วก็มนุษย์ แต่ว่ายังเป็นการสะท้อนถึงความเคลื่อนไหวของสังคมประเทศญี่ปุ่นข้างหลังสงครามโลกครั้งที่ 2 ซึ่งมีการปรับปรุงเมืองอย่างเร็ว ทำให้พื้นที่ธรรมชาติถูกทำลายอย่างมากมาย
ภาพยนตร์ยังซ่อนเร้นข้อคิดเตือนใจเกี่ยวกับวิถีชีวิตของคนเราแล้วก็ธรรมชาติที่อยู่ด้วยกันมายาวนาน การพัฒนาที่ไม่หยุดยั้งของเมืองสะท้อนถึงความโลภละโมบรวมทั้งการไม่สนใจผลพวงต่อสภาพแวดล้อม ซึ่งทำให้สัตว์ป่าอย่างทานูกิจำต้องพบเจอกับการสูญเสียถิ่นกำเนิด สถานะการณ์นี้สามารถสะท้อนถึงปัญหาทั่วทั้งโลกเกี่ยวกับการทำลายธรรมชาติเพื่อการขยายตัวของเมืองแล้วก็อุตสาหกรรมอย่างไม่จีรัง
ความตรึงใจอีกอย่างหนึ่งของผู้ชมเป็นการที่ทานูกิในเรื่องเพียรพยายามปรับพฤติกรรมให้กับโลกมนุษย์ในแบบต่างๆอีกทั้งการเปลี่ยนร่างเป็นมนุษย์เพื่อดำเนินชีวิตในเมืองหรือสร้างภาพมายาเพื่อคดโกงมนุษย์ แม้กระนั้นในที่สุด พวกเขากลับทำให้พบว่าการปรับตัวไม่อาจจะช่วยพวกเขาได้ในระยะยาว การสูญเสียที่ดินแล้วก็ที่พักที่อาศัยของทานูกิเป็นการเตือนให้พวกเราตระหนักถึงจุดสำคัญของการดูแลและรักษาสมดุลระหว่างธรรมชาติและก็การพัฒนา